
ราฮีม สเตอร์ลิง ตัวรุก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เผยถึงสาเหตุที่ทำให้เขาจำต้องยืนหยัดอดทนการถูกเหยียดผิว แทนที่จะตัดสินใจวอล์คเอาท์ เนื่องจากมันจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกได้รับชัยชนะ
แข้งวัย 24 ปี ต้องถูกกระทำย่ำยีทางวาจามาโดยตลอด โดยล่าสุดก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติอังกฤษที่ถูกฝูงชนผู้เถื่อนถ่อยรุมจาบจ้วง ในเกมที่ทีมสิงโตคำรามบุกไปเยือนมอนเตเนโกร ในศึกเกมรอบคัดเลือก ยูโร 2020
เกมดังกล่าว สเตอร์ลิง เลือกที่จะไม่ตอบโต้ใดๆ นอกจากทำท่าป้องหูหลังซัดประตูช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะ 5-1 ซึ่งเขาก็ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า "โดยส่วนตัวแล้วผมไม่เห็นด้วยหรอกกับการเดินออกจากสนามไปเลย ผมว่าการคว้าชัยชนะในเกมการแข่งขันมันจะสร้างความเจ็บปวดให้กับพวกเขาได้มากกว่า"
"พวกเขาก็แค่พยายามทำให้คุณรู้สึกแย่ และถ้าหากว่าคุณตัดสินใจเดินออกจากสนาม พวกเขาก็รู้สึกได้รับชัยชนะ ดังนั้นการยิงประตูหรือช่วยทีมคว้าชัยชนะมันคงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า"
"ผมเป็นคนดำ และผมก็มีความภาคภูมิใจและมั่นใจกับร่างกายของผมดี แม่ของผมได้พูดกับผมมาโดยตลอดว่าให้ภูมิใจในตัวเองเข้าไว้ เธอบอกว่าผมเป็นเด็กผิวดำที่แสนวิเศษ"
"ที่จริงแล้วผมไม่เคยได้ยินมัน (การเหยียดผิว) ที่ลอนดอนเลยนะ โดยหลักแล้วมันเกิดขึ้นก็ตอนที่ผมขึ้นเหนือไปยังลิเวอร์พูล ตอนนั้นแหละที่ผมเริ่มได้ยินมันบ้าง" สเตอร์ลิง กล่าวปิดท้าย