กองหน้า - ตัวริมเส้นด้านขวา

เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้วชาวแอลจีเรีย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปิดดีลคว้าตัวริยาด มาห์เรซ จากเลสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทัพอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ก.ค. ปี 2018

แข้งวัย 27 ปี ได้เซ็นสัญญากับ "เรือใบสีฟ้า" เป็นเวลา 5 ปี ถึงปี 2023 และจะสวมเสื้อหมายเลข 26

มาห์เรซ คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ร่วมกับเลสเตอร์ ในฤดูกาล 2015/16 เขาเกิดที่ฝรั่งเศสและเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพที่เลอ อาร์ฟ ช่วงสามปีที่อยู่ที่นั้น เขาลงเล่นไป 67 นัด

เขาย้ายมาร่วมทีมเลสเตอร์ เมื่อปี 2013 และพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในการฟาดแข้งฤดูกาลแรกของเขา ลงไป 19 นัด ยิงไป 3 ประตู จบฤดูกาลแรกอย่างงดงามและปรับตัวอย่างยอดเยี่ยมในปีแรกที่ย้ายมาเกาะอังกฤษ

ฤดูกาล 2014/15 เลสเตอร์ จบที่อันดับ 14 ของตารางพรีเมียร์ ลีก ชนะ 7 เกมใน 9 นัดสุดท้าย รอดพ้นจากการตกชั้น

ในปี 2016 เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก อย่างสบายๆ มีสิบคะแนนห่างทีมอันดับสองอย่างอาร์เซน่อล แม้ว่าจะเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีนัก จนมีคำวิจารณ์ว่าอาจจะตกชั้น

มาห์เรซ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของทีม และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสร รวมทั้งติดผังนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอ จากผลงาน 17 ประตู ใน 37 เกมในลีก

นอกจากนี้ เขายังมีชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะอัฟริกันยอดเยี่ยมประจำปี และนักเตะอัฟริกันดีเด่นของบีบีซี ประจำปี 2016

สองปีสุดท้ายที่อยู่คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม เขาทำไป 23 ประตู แม้ว่าเลสเตอร์ไม่อาจรักษาแชมป์ไว้ได้และจบที่อันดับ 12 ในปี 2017 และจบที่เก้า ในซีซั่น 2017/18

โดยรวม เขาลงเล่นให้เลสเตอร์ 179 เกม ซัดไป 48 ประตู

ริยาด ติดทีมชาติแอลจีเรีย 39 ครั้ง ยิงไปแปดประตู

ปีกความไวสูง ริยาด มาห์เรซ ชื่ออย่างเป็นทางการของเขาคือ Riyad Karim Mahrez เกิดวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1991 ในเมือง Sarcelles ฝรั่งเศส แต่ว่าตัวเขามีเชื้อสายแอลจีเรียอยู่ด้วย มีความสูง 179 เซนติเมตร มาห์เรซ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมในเมืองเกิด AAS Sarcelles ในปี 2004 ฝึกฝนพัฒนาฝีเท้าอยู่ 5 ปี ได้ถูก Quimper มาดึงไปในปี 2009 จากนั้นก็ย้ายไปอยู่กับทีมที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไล่ตั้งแต่ เลอ อาฟ ชุดบี ก่อนขึ้น เลอ อาฟ ชุดใหญ่ และย้ายมาอยู่กับทีมที่แจ้งเกิดและสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเขาให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ย้ายมาอยู่ที่นี่ในฤดูกาล 2014

เกมแรกที่เปิดตัวกับจิ้งจอก ช่วยทีมชนะ 2-0 ในวันที่ 25 มกราคม จากนั้นก็ช่วยทีมทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง จนคว้าแชมป์ลีกแชมป์เปี้ยนชิพและก้าวขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกในปีถัดมา พอขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด ฝีเท้าของ มาห์เรซ ยิ่งรุดหน้าไปมากขึ้นเยอะ ทั้งฝีเท้าที่รวดเร็ว ชั้นเชิงฟุตบอลที่สูง ลูกนิ่งก็อันตรายไม่น้อย ทำให้ตัวเขาถูกจับตาในฐานะตัวรุกฝีเท้าฉกาจคนหนึ่งของลีก จนเข้าสู่ฤดูกาล 2015-2016 ที่ถึงจุดพีคของเขา นำพาสโมสรเล็กๆอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ด้านผลงานส่วนตัวนั้น มาห์เรซ เยี่ยมยอดสุดๆ เป็นแกนหลักคนสำคัญของทีม จนคว้านักเตะยอดเยี่ยมประจำปีในฤดูกาลนั้นไปครอง ก่อนจะตามด้วยแข้งจากทวีปแอฟริกาเยี่ยมยอดในช่วงเวลาถัดมา เป็นฤดูกาลที่สุดยอดของตัวรุกสุดจี๊ดคนนี้มากๆ

จากฝีเท้าอันร้อนแรงทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายกับทีมดังของอังกฤษมากมาย ก่อนจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดึงตัวมาได้ เมื่อทุ่มเงินกว่า 60 ล้านปอนด์ ในวันที่ 10 กรกฏาคม 2018 แต่หลังจากย้ายมาเล่นกับ แมนซิตี้ พื้นที่ในการเล่นของ มาห์เรซ นั้นน้อยลงไปมาก เป็นสำรองซะส่วนใหญ่ แม้ด้านฝีเท้าจะยังคมอยู่ แต่การไม่ค่อยได้เล่นก็ทำเอาเจ้าตัวหยุดพัฒนาไปเหมือนกัน ในนามทีมชาติแอลจีเรีย มาห์เรซ คือเสาหลักของทีมคนปัจจุบัน ยิงประตูสำคัญๆให้กับทีมมากมายและเป็นถึงกัปตันทีมในตอนนี้