
วิลฟรีด โบนี่ มีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แทนที่ของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ได้รับบาดเจ็บมาจากเกมทีมชาติ ขณะที่ ดาบิด ซิลบา และ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ไม่พร้อมลงเล่นในเกมนี้ เนื่องจากเจ็บข้อเท้าและแฮมสตริงตามลำดับ
ด้านบอร์นมัธมีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติม โดยเป็นกัปตัน ทอมมี่ เอลฟิค ที่จะไม่สามารถลงสนามได้จนถึงช่วงปีใหม่ เนื่องจากต้องผ่าตัดข้อเท้า แต่จะได้มิดฟิลด์ แฮร์รี่ อาร์เตอร์ หายเจ็บโคนขาหนีบกลับมา ซึ่งเขาก็ได้เรียกความฟิตในเกมยู-21 ไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์
การพบกันของทั้งสองทีม
- ทั้งคู่ยังไม่เคยเจอกันในลีกสูงสุดมาก่อน
- บอร์นมัธไม่เคยชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้เลยในการเจอกัน 6 ครั้งก่อนหน้านี้ (เสมอ 2 แพ้ 4)
- ทั้งคู่เจอกันครั้งล่าสุดในเกมดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 1998/99 ซึ่งซิตี้เปิดบ้านชนะได้ ก่อนจะไปเสมอ 0-0 ที่บ้านบอร์นมัธ โดยผู้จัดการทีมเดอะ เชอร์รี่ส์คนปัจจุบันอย่าง เอ็ดดี้ ฮาว ได้ลงเล่นทั้ง 2 เกมนั้นด้วย
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ชนะถึง 10 เกม จากการเตะ 11 เกมลีกหลังสุดในบ้าน
- พวกเขายิงได้สูงสุดในฤดูกาลนี้จนถึงขณะนี้ที่จำนวน 19 ประตู โดยตลอด 17 เกมลีกที่ผ่านมา พวกเขาทำประตูได้ทั้งหมด
- เควิน เดอ บรอยน์ ยิงไปแล้ว 3 ประตู บวกกับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก 3 นัดแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นอกจากนี้เขาก็ยังยิงได้ในการเล่นให้ทีมชาติเบลเยียมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย
บอร์นมัธ
- ชัยชนะนอกบ้านครั้งเดียวของบอร์นมัธในฤดูกาลนี้เกิดขึ้นที่สนามของเวสต์ แฮม ซึ่งเป็นทีมที่ยัดเยียดความปราชัยในบ้านให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในฤดูกาลนี้
- ครึ่งหนึ่งของทั้ง 10 ประตูที่บอร์นมัธทำได้ในลีกฤดูกาลนี้มาจากฝีเท้าของ คัลลัม วิลสัน ซึ่งตอนนี้เขาเจ็บอยู่
- ตามสถิติจาก Opta ผู้เล่นของบอร์นมัธวิ่งรวมกันในสนามไปแล้ว 944 กิโลเมตร ถือว่ามากกว่าทีมใดๆ ถึง 18 กิโลเมตรเลยทีเดียว