
ซามีร์ นาสรี่ รับบทฮีโร่ซัดประตูชัยช่วยให้"เรือใบสีฟ้า"แมนฯ ซิตี้ ที่ตกเป็นฝ่ายตามหลัง ก่อนพลิกแซงเอาชนะ เวสต์บรอมวิช ไป 2-1 เก็บเพิ่มอีกสามแต้ม พร้อมรั้งอันดับ 4 ตามเดิม มี 57 คะแนน ในการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2559
แมนฯ ซิตี้ 2-1 เวสต์บรอมวิช
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
คู่ปิดท้ายแมนฯ ซิตี้โรเตชั่นทีมเพื่อเก็บความสดเอาไว้บู๊ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแปดทีมนัดสองกับปารีส แซงต์ แชร์กแมงกลางสัปดาห์โดยปรับโผห้ารายจากนัดบุกไปเสมอกับเปแอสเช 2-2 ด้วยการใช้งานปาโบล ซาบาเลต้า , อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ , ฟาเบียน เดลฟ์ , ซามีร์ นาสรี่ และวิลฟรีด โบนีย์แทนบาการี่ ซาญ่า , กาแอล กลิชี่ , แฟร์นานดินโญ่ , เควิน เดอ บรอยน์ และดาบิด ซิลบาที่เจ็บข้อเท้าเล็กน้อย อีกทั้งได้ยาย่า ตูเร่ที่หายเจ็บกลับมานั่งข้างสนาม
ด้านเวสต์บรอมวิชสลับให้เจมส์ แม็คคลีนกับสเตฟาน แซสเซอยองลงบู๊ก่อนหน้าเคลาดิโอ ยาค็อบกับเคร็ก การ์ดเนอร์หลังบุกไปเสมอกับซันเดอร์แลนด์ 0-0 นัดก่อน
เกมดวลกันท่ามกลางสายฝนที่เทลงมา และแค่นาทีที่ 6 เรือใบสีฟ้าก็หงายเก๋งก่อนเมื่อแฟร์นานโดผ่านบอลแย่แถวกลางสนาม และโดนโต้โดยแม็คคลีนสปีดไปเก็บบอลยาวที่ริมเส้นด้านซ้ายก่อนสาดข้ามมาอีกฟากให้แซสเซอยองยิงยัดไส้จาก 16 หลาส่งบอลตุงตาข่ายที่เสาแรกพาเดอะ แบกกี้ส์นำ 1-0 โดยเป็นการส่งบอลตรงกรอบหนแรกจากสามเกมหลังของทีมเยือนด้วย
แมนฯ ซิตี้เดินหน้าหมายทวงสกอร์คืนทันที และประสบความสำเร็จในนาทีที่ 19 จากการบุกขึ้นทางซ้ายแล้วนาสรี่ไหลบอลเข้าเขตโทษให้โคลารอฟหลุดเข้าไปก่อนโดนแซสเซอยองตามไปจิ้มล้ม ผู้ตัดสินจึงเป่าให้เป็นลูกโทษโดยเซร์คิโอ อเกวโร่สังหารเบียดเสาขวามือของตัวเองเข้าประตูตีเสมอให้ทีมเงินถังเป็น 1-1
ผ่านมาอีกสองนาที สถานการณ์ของทีมเยือนก็แย่ลงไปอีกเมื่อซาโลมอน รอนดอนบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเดินออกไปให้การ์ดเนอร์ที่เจ็บศีรษะอยู่ก่อนแล้วโพกผ้าพันแผลลงมาบู๊แทน
ถึงนาทีที่ 29 เวสต์บรอมวิชประสานงานกันดีโดยไซโด้ เบราฮิโน่รับบอลจากแซสเซอยองแล้วแบะคืนให้การ์ดเนอร์สับไกจากหน้าเขตโทษหลุดกรอบไปไม่เยอะ
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 33 การ์ดเนอร์ไปยันใส่เฆซุส นาบาสอันตราย ทำให้โดนจดชื่อเป็นรายแรก แต่จากนั้นต่างก็ทำอะไรกันไม่ถนัด ครบ 45 นาทีแรกสกอร์จึงยุติที่ 1-1
ครึ่งหลังแมนฯ ซิตี้ได้เสียวก่อนในนาทีที่ 55 เมื่อแฟร์นานโดผ่านบอลจากกราบซ้ายให้อเกวโร่ซัลโวระยะ 25 หลาถูกเบน ฟอสเตอร์ปัดได้สำเร็จ
จากนั้นอีกสามนาที แซสเซอยองตักบอลจากริมเขตโทษด้านขวาไปหน้าประตูแล้วซานโดรโดนเอเลียกิม มองกาล่ากระแทกใส่ด้านหลังจนล้มขณะบังบอล แต่ผู้ตัดสินปฏิเสธที่จะมอบลูกโทษให้อาคันตุกะ
นาทีที่ 60 เรือใบส่งเดอ บรอยน์กับตูเร่ลงไปแทนวิลฟรีด โบนีย์กับเดลฟ์ และในที่สุดนาทีที่ 66 ก็เรียกเสียงเฮจากแฟนเรือใบได้เมื่อเดอ บรอยน์ปั๊มแย่งบอลได้ในแดนทีมเยือน และไหลจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้นาบาสจ่ายไปที่อเกวโร่อีกที แม้ศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์จะซัดไปโดนดาร์เรน เฟล็ทเชอร์เข้าบล็อคได้ แต่บอลทะลักไปเสาสองให้นาสรี่ซ้ำสามหลาไม่เหลือ จึงเป็นอันว่าเจ้าบ้านขยับนำ 2-1
นับจากนั้น เวสต์บรอมวิชก็ลุยแหลก แต่นาทีที่ 77 แมนฯ ซิตี้ได้ลูกฟรีคิกแถวกลางสนาม และตูเร่ฉวยโอกาสแทงบอลยาวให้อเกวโร่หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาไปกดระยะ 14 หลา ดีที่ว่าฟอสเตอร์เซฟได้
ถึงนาทีที่ 80 ทีมเยือนปล่อยโจนาธาน เลโก้ดาวรุ่งลงเล่นแทนแซสเซอยอง และมาได้ลูกฟรีคิกกลางประตูระยะ 30 หลาหลังจากนิโคลัส โอตาเมนดี้ทำฟาวล์แม็คคลีน การ์ดเนอร์จึงรับภาระวิ่งเข้ากระทุ้ง แต่โจ ฮาร์ทกระโดดปัดข้ามคานได้
ล่วงมาถึงนาทีที่ 87 โคลารอฟสบโอกาสกระชากบอลจากแดนตัวเองขึ้นมาคนเดียวทางฝั่งซ้าย และหลบเคร็ก ดอว์สันเข้าเขตโทษได้ แต่กดมุมแคบส่งบอลพุ่งไปชนเสา
ขยับมาอีกสองนาที เรือใบส่งกลิชี่ลงไปแทนอเกวโร่ที่เจ็บส้นเท้าจากจังหวะโดนการ์ดเนอร์เหยียบจนต้องกระเผลกออกจากสนาม กระทั่งช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย เดอะ แบกกีส์มาได้ลูกเตะมุมด้านซ้ายแล้วฮาร์ทชกบอลออกมาเข้าทางให้แม็คคลีนยิงสวนจาก 18 หลา แต่บอลเลี้ยวออกเสาแรกไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด จบเกมแมนฯ ซิตี้จึงเก็บสามแต้มไปได้แบบหวุดหวิดจากชัยชนะ 2-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 6 - ปาโบล ซาบาเลต้า 7 , เอเลียกิม มองกาล่า 6 , นิโกลัส โอตาเมนดี้ 7 , อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ 8 - แฟร์นานโด 6 , ฟาเบียน เดล์ฟ 6 (ยาย่า ตูเร่ น.59) , ซามีร์ นาสรี่ 8 , เฆซุส นาบาส 7 - เซร์คิโอ อเกว์โร่ 7 (กาแอล กลิชี่ น.89) , วิลฟรีด โบนี่ 6 (เควิน เดอ บรอย น.59)
สำรองไม่ได้ใช้ : วิลลี่ กาบาเยโร่ , แฟร์นานดินโญ่ , มาร์ติน เดมิเคลิส , เคเลชี่ อิเฮยนาโช่
เวสต์ บรอมวิช : เบน ฟอสเตอร์ 6 - เคร็ก ดอว์สัน 7, จอนนี่ อีแวนส์ 6, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์ 7 , เจมส์ เชสเตอร์ 6 - ซานโดร 6 , ดาร์เรน เฟลทเชอร์ 7 , เจมส์ แม็คคลีน 6 , สเตฟาน เซสซีญง 7 (โจนาธาน เลโก้ น.79) - ซาโลมอน รอนดอน (เคร็ก การ์ดเนอร์ น.20) , ไซโด้ เบราฮีโน่ 6
สำรองไม่ได้ใช้ : โบซ มายฮิลล์ , โยนาส โอลส์สัน , เคลาดิโอ ยาคอบ , วิคเตอร์ อนิเชเบ้ , คัลลัม แม็คมานามาน
ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์