"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เรียกฟอร์มแกร่ง เปิดบ้านถล่มยับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค 4-0 เก็บสามคะแนน แซง อาร์เซน่อล ขึ้นมาอยู่ที่3 แต่แข่งมากกว่า1นัด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันเสาร์ที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2559
แมนฯ ซิตี้ 4-0 สโต๊ค ซิตี้



สนาม:เอติฮัด สเตเดี้ยม



แมนฯ ซิตี้เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยมรับการมาเยือนของสโต๊ค ซิตี้ โดยเจ้าบ้านได้ ดาบิด ซิลบา หายเจ็บลงเป็นตัวจริง ส่วนทีมเยือนขาด เซอร์ดาน ชากิรี่ ที่มีอาการบาดเจ็บไป


เริ่มเกมเจ้าบ้านเป็นฝ่ายทำเกมรุกเข้าใส่ น.7 เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลลุยมาถึงหน้าเขตโทษ แล้วจ่ายให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ยิง แต่บอลเฉี่ยวเสาไกลออกไป



สโต๊คได้ลุ้นบ้าง ในน.16 จากลูกเตะมุม ยาย่า ตูเร่ โหม่งทิ้งมาเข้าทาง ไรอัน ชอว์ครอสส์ ได้วอลเลย์ที่เสาไกลแต่บอลไม่ตรงกรอบ



น.19 แมนฯ ซิตี้ได้ฟรีคิกริมเส้นทางฝั่งขวา เฆซุส นาบาส เปิดมากลางประตู บอลมาถึง นิโกลัส โอตาเมนดี้ พยายามขึ้นโขกแต่โดนไม่เต็ม เชย์ กิฟเว่น จึงคว้าเอาไว้สบาย



สโต๊คได้ลุ้นบ้าง ในน.30 มาร์โค อาร์เนาโตวิช ได้บอลในเขตโทษแล้วตักไปกลางประตูให้โฆเซลู ขึ้นโขก แต่บอลข้ามคานไป



แมนฯ ซิตี้ออกนำ 1-0 ใน น.35 นาบาสเปิดเตะมุมไปกลางประตูให้ แฟร์นานโด โฉบมาโหม่งบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไป



เกมยังเป็นของแมนฯ ซิตี้และมาได้ประตูที่ 2 ใน น.43 เมื่อมาได้จุดโทษจากการที่ชอว์ครอสส์ไปดึงอิเฮียนาโช่ในเขตโทษ และเป็นอเกวโร่ที่สังหารเข้าไปได้ หมดครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้จึงนำอยู่ 2-0



กลับมาเล่นครึ่งหลัง สโต๊คเปลี่ยนกิฟเว่นที่เจ็บแล้วส่งเฮาการ์ดเฝ้าเสาแทน แค่ 3 นาที บาร์ดสลี่ย์ปั่นฟรีคิกไม่เข้ากรอบ อีกนาที อาร์เนาโตวิชกระชากมาทางซ้าย ก่อนตบเข้ากลางให้โฆเซลูโฉบมาชาร์จ บอลปลิ้นหลุดเสาไกล


เรือใบตั้งลำ นาที 51 อเกวโร่ "กุน" กระชากมาทางขวาก่อนผ่านเข้ากลางให้อิเฮียนาโช่สับไกด้วยซ้าย เล็งใต้คาน แต่เฮาการ์ดปัดทิ้งได้ทัน อีก 3 นาที จากลูกเตะมุมฝั่งขวา วีแลนเปิดมาเสาแรก ดิยุฟโฉบมาขวิดหลุดข้างเสา



เจ้าถิ่นคุมเกมอยู่หมัด นาที 58 จังหวะต่อบอลสั้นจากลูกเตะมุมทางขวา นาบาสปาดเข้ากลางให้ตูเร่แปเน้นๆ แถวจุดโทษติดมือเฮาการ์ด อีกนาที อาร์เนาโตวิชไปแย่งบอลจากกองหลังเรือใบทางฝั่งซ้าย แล้วลากเข้ามาเอง ก่อนยิงติดฮาร์ท



มาเป็นระลอก นาที 61 นาบาสผ่านจากขวาเข้ากลางให้อิเฮียนาโช่ส่องด้วยซ้ายเต็มดอก แต่บอลเฉี่ยวเสาสองออกหลัง



กระทั่งนาที 64 เรือใบฉีกแผลสาม ซาบาเลต้าปาดจากขวามากลางประตูให้อิเฮียนาโช่ที่กางมุ้งรอ แปด้วยซ้ายเข้ากลางประตูไม่พลาด แมนฯ ซิตี้ทิ้งห่าง 3-0



สโต๊คเจาะไม่เข้า นาที 67 อิมบูล่าลองยิงไกล เหินข้ามคานอีก นาที 71 นาบาสโยนให้โอตาเมนดี้โขกติดแนวรับทีมเยือน



เรือแล่นฉิว นาที 74 โบนี่ พลิกตัวแล้วจ่ายบอลทะลุช่องให้อิเฮียนาโช่หลุดเดี่ยวเข้าหาเฮาการ์ด ก่อนหนีออกซ้าย แล้วแปเข้าประตูโล่งๆ ไม่เหลือ แมนฯ ซิตี้ โกยลิบ 4-0 และเป็นประตูที่ 2 ของไอ้หนูไนจีเรียด้วย



ท้ายเกม นาที 80 ทีมเยือนได้ฟาวล์หน้าเขตโทษ อิมบูล่าปั่นด้วยซ้ายเหินข้ามคานไปเอง จบเกม แมนฯ ซิตี้ ถล่ม สโต๊ค ซิตี้ 4-0 เก็บ 3 แต้มแซงอาร์เซน่อลที่จะเล่นวันอาทิตย์ ขึ้นมาป็นอันดับ 3 ชั่วคราว



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


แมนฯ ซิตี้ โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอเลียควิม ม็องกาล่า, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, แฟร์นานโด, ยาย่า ตูเร่, เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, เซร์คิโอ อเกวโร่


สโต๊ค เชย์ กิฟเว่น, ฟิล บาร์ดสลี่ย์, ไรอัน ชอว์ครอสส์, ฟิลิปป์ โวลล์ไชด์, มาร์ค มูเนียซ่า, เจฟฟ์ คาเมรอน, เจียนเนลลี่ อิมบูล่า, เกล็น วีแลน, มาร์โค อาร์เนาโตวิช, มาเม่ บิราม ดิยุฟ, โฆเซลู