
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ กลายเป็นฮีโร่ในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ สุดมันส์ เมื่อยิง 1 จ่าย 1 พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเชือด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น 2-1 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" ชนะ 4 นัดติดในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ "ปีศาจแดง" พ่ายเป็นเกมแรกของฤดูกาล
ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2559
แมนฯ ยูไนเต็ด 1 - 2 แมนฯ ซิตี้
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ศึกผ่าเมือง "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้" ครั้งที่ 172 ขบวนแรก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสังเวียน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยทาง โชเซ่ มูรินโญ่ แม่ทัพชาวโปรตุกีส ปรับ 2 ตำแหน่งจากชุดชนะ ฮัลล์ โดยใส่ชื่อ เฮนริค มคิตาร์ยาน กับ เจสซี่ ลินการ์ด เป็นตัวจริงแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ ฆวน มาต้า ขณะที่ดาวรุ่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ยังนั่งสำรอง
ส่วนทาง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขาด เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ติดโทษแบน 3 นัด ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ส่ง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงล่าตาข่าย ส่วนนายทวารคนใหม่ เคลาดิโอ บราโว่ ประเดิมสนาม หลังย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า
โดยสถิติที่น่าสนใจ ทั้งสองทีมพบกันทั้งหมด 147 ครั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 58 ครั้ง ส่วน แมนฯ ซิตี้ ชนะ 43 ครั้ง เสมอกันไป 46 ครั้ง "ปีศาจแดง" กดไป 209 ประตู ส่วน "เรือใบสีฟ้า" ยิงได้ 204 ประตู
การพบกัน 5 ครั้งหลังสุดยังถือว่ากินกันไม่ลง ผลัดกันชนะทีมละ 2 ครั้ง เสมอกัน 1 ครั้ง
เกมเริ่มมา 3 นาที ทีมเยือนได้ทักทายแบบหวาดเสียวก่อน เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ได้โอกาสหลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดตัดเข้าในแบบได้ลุ้น ทว่าไม่มีผู้เล่นของ ซิตี้ ชาร์จเข้าถึงบอล
เจ้าบ้านมีตอบโต้คืนข้างจากจังหวะสวนกลับ เวย์น รูนี่ย์ ถ่ายบอลมาทางขวาให้ เฮนริค มคิตาร์ยาน ก่อนไหลต่อให้ ปอล ป็อกบา ปั่นด้วยขวาบอลลอยข้ามคานออกไปนิดเดียว
เข้าสู่นาทีที่ 15 "เรือใบสีฟ้า" ก็เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ วางบอลยาวให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ เทคตัวโขกเช็ดมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ ที่ชิงเล่นได้ก่อน ดาเล่ย์ บลินด์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ ดาบิด เด เคอา ก่อนจะซัดเข้าเสาแรกไป
หลังจากเสียประตู "ปีศาจแดง" ก็พยายามโหมบุกเอาประตูคืน แต่ ซิตี้ ก็ทำได้ดีเหลือเกินในแดนกลาง เก็บและครองบอลได้ตลอด ไม่ทำให้เจ้าบ้านได้มีโอกาสเล่นง่ายๆ
สถานการณ์ของเจ้าบ้านเป็นรองอย่างหนักแล้ว เมื่อ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 2-0 นาที 36 จากจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลในเขตโทษก่อนล็อคเข้าเท้าซ้ายก่อนจะตะบันไปชนเสาไกล บอลเด้งมาเข้าทาง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่ยืนไม่ล้ำหน้าอยู่หน้าปากประตูแปบอลเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย
นาที 42 "ปีศาจแดง" กลับเข้าสู่เกมได้ก่อนหมดครึ่งแรก จากจังหวะฟรีคิกทางด้านขวา เวย์น รูนี่ย์ โยกบอลลึกไปในเขตโทษ เคลาดิโอ บราโว่ ออกมากะจังหวะพลาด บอลหลุดมาเข้าทาง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่รอเก็บตกอยู่ซัดด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไป แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่มาที่ 1-2 แล้ว
หลังจากได้ประตูตีไข่แตก เจ้าบ้านมีโอกาสเหน่งๆ ถึงสองครั้งที่จะตีเสมอแต่ยังทำไม่ได้ จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ยังคงบุกนำ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ 2-1
ครึ่งหลังเจ้าบ้านขยับเปลี่ยนผู้เล่นถึง 2 ตำแหน่ง อันเดร เอร์เรร่า และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ถูกส่งลงสนามแทน เฮนริค มคิตาร์ยาน และ เจสซี่ ลินการ์ด และมีโอกาสได้ประตูตีเสมอทันทีหลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนตักให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตวัดด้วยซ้ายบอลข้ามคานไปอย่างได้ลุ้น
เข้าสู่นาที 53 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับหมากบ้างโดยการส่ง แฟร์นานโด ลงสนามแล้วถอด เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ เพื่อแพ็กเกมรับให้แน่นขึ้น
ทีมเยือนขยับเปลี่ยนตัวอีกครั้งนาที 60 ส่ง ลีรอย ซาเน่ ลงประเดิมเกมแรกในพรีเมียร์ลีก แทนที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
เวลาเดินทางมาถึงนาที 70 แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสตีเสมอเหมือนกัน หลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด ตะบึงเดี่ยวทางด้านซ้ายก่อนตัดเข้าในเขตโทษปั่นด้วยขวาบอลไปแฉลบขา ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ทว่าผู้กำกับเส้นยกธงให้เป็นจังหวะล้ำหน้าของศูนย์หน้าสวีดิช
5 นาทีถัดมา ทีมเยือนมีโอกาสหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะสวนกลับ ลีรอย ซาเน่ พาบอลขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนไหลต่อให้ เควิน เดอ บรอยน์ ตวัดด้วยขวาบอลไปชนเสาก่อนไหลผ่านปากประตูออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีท้ายของเกม เจ้าถิ่นทิ้งไพ่ใบสุดท้าย อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงเล่นแทน ลุค ชอว์ พร้อมปรับหมากมาเล่นเซนเตอร์ 3 คน
ก่อนเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้าย ปาโบล ซาบาเลต้า ลงสนามแทน โนลีโต้ และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที ทั้งสองทีมไม่มีใครบวกสกอร์เพิ่มได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงรัง 2-1 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" เก็บชัยได้เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายเป็นเกมแรกในซีซั่นนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เอริก ไบยี่, ดาเล่ย์ บลินด์, ลุค ชอว์ (อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.81) - มารูยาน เฟลไลนี่, ปอล ป็อกบา - เฮนริค มคิตาร์ยาน (อันเดร เอร์เรร่า น.46) , เวย์น รูนี่ย์ (กัปตันทีม), เจสซี่ ลินการ์ด (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.46) - ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
สำรอง : เซร์คิโอ โรเมโร่, คริส สมองลิ่ง, มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน, อันเดร เอร์เรร่า, ฆวน มาต้า, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด
แมนฯ ซิตี้ : เคลาดิโอ บราโว่ - บาการี่ ซานญ่า, จอห์น สโตนส์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ - เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา (กัปตันทีม) - ราฮีม สเตอร์ลิง (ลีรอย ซาเน่ น.60), โนลีโต้ (เปาโล ซาบาเลต้า น.90), เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (แฟร์นานโด น.53)
สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่, ปาโบล ซาบาเลต้า, กาแอล กลิชี่, แฟร์นานโด, อเล็กซ์ การ์เซีย, เฆซุส นาบาส, ลีรอย ซาเน่
ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล๊ตเทนเบิร์ก