"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ฟอร์มในรังยังแข็งแกร่งหลังเปิดคัมป์นูไล่ถล่มเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ 4-0 เกมนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดเยี่ยมตะบันแฮตทริกที่37ในสีเสื้อเจ้าบุญทุ่มแถมเป็นประตูที่16ใน15เกมที่พบกับสโมสรจากอังกฤษ เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี
วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2559

บาร์เซโลน่า (สเปน) 4 - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) 0

สนาม : คัมป์ นู

บาร์เซโลน่า เกมนี้ไม่มี ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ประตูทีมชาติฮอลแลนด์ที่เจ็บเอ็นข้อเท้านอกนั้นถือว่าสมบูรณ์ สามแนวรุกเรียก ลิโอเนล เมสซี่ กลับมาผนึกกำลังร่วมกับ เนย์มาร์ และ หลุยส์ ซัวเรซ ตามเดิม

ด้าน แมนฯ ซิตี้ ของเทรนเนอร์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่กลับเยือนถิ่นเก่าสะกดชัยชนะไม่เป็นมา 3 นัดติดทุกรายการแนวรุกดร็อป เซร์คิโอ อเกวโร่ เป็นสำรองก่อนแต่ตัวหลักนำมาโดย ดาบิด ซิลบา, โนลิโต้ และ เควิน เดอ บรอยน์

ครึ่งแรกเริ่มมาเพียง 10 นาที เจ้าถิ่นต้องใช้โควตาเปลี่ยนตัวแล้วหลังจาก จอร์ดี้ อัลบา มีอาการบาดเจ็บแล้วเล่นต่อไม่ไหวจึงเป็น ลูก้าส์ ดีญ ลงมาเล่นแทน

ต่อมานาที 17 บาร์เซโลน่า ออกนำ 1-0 ลิโอเนล เมสซี่ แทงบอลให้ อันเดรส อีเนียสต้า หลุดไปยิงจังหวะแรกติดบล็อกก่อนเข้าทาง เมสซี่ ลากหลบ เคลาดิโอ บราโว่ ก่อนแปเข้าไปนิ่มๆ

เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมงเศษ ''เจ้าบุญทุ่ม'' ยังได้โอกาส ลิโอเนล เมสซี่ หยอดบอลไปเสาไกลให้ อิวาน ราคิติช โหม่งมุมแคบแต่ยังหลุดกรอบออกไป

ขยับมานาที 37 แมนฯ ซิตี้ สวนมาบ้าง ดาบิด ซิลบา ไหลให้ โนลิโต้ ที่สอดมายิงยัดเสาแรกแต่ มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ยังปัดทิ้งออกหลังไปได้

จังหวะต่อมา ''เรือใบสีฟ้า'' เกือบได้ประตูตีเสมอ โนลิโต้ จ่ายให้ อิลคาย กุนโดกัน ลากแหวกไปซัดด้วยขวาแต่ยังติดเซฟ แทร์ ชเตเก้น อย่างน่าเสียดาย

นาทีสุดท้ายครึ่งแรก บาร์เซโลน่า เกือบได้ลูกสอง ลิโอเนล เมสซี่ ไหลให้ หลุยส์ ซัวเรซ ตวัดยิงด้วยซ้ายติดเซฟของ เคลาดิโอ บราโว่ หวุดหวิดจบครึ่งแรก เจ้าถิ่นนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังผ่านมานาที 51 "เจ้าบุญทุ่ม" ลุ้นก่อนเลย เนย์มาร์ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ ซามูเอล อูมติตี้ เติมขึ้นมาโหม่งบอลเหินข้ามคานไป

อีกสองนาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้ ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนหลังจาก เคลาดิโอ บราโว่ เตะบอลพลาดเข้าทาง ซัวเรซ และหัวหอกอุรุกวัยพยายามจะยิงข้ามหัวแต่ บราโว่ ที่ออกมานอกเขตใช้มือปัดบอลโดนใบแดงไล่ออกไป

ขยับมานาที 61 บาร์เซโลน่า หนีเป็น 2-0 จนได้ อันเดรส อีเนียสต้า จ่ายให้ ลิโอเนล เมสซี่ โยกหลอกหนึ่งจังหวะก่อนหลอกยิงเสาแรกตุงตาข่าย

อีกสามนาทีต่อมา ทีมเยือนพยายามบุกโต้ อิลคาย กุนโดกัน แทงบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดไปยิงติดเซฟ แทร์ ชเตเก้น อย่างน่าเสียดายเกมยังเล่นกันสนุก

มาถึงนาที 69 เจ้าถิ่นมาได้ประตูปิดกล่อง 3-0 กุนโดกัน จ่ายบอลพลาดไปเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนเปิดมาให้ ลิโอเนล เมสซี่ แปนิ่มๆเข้าไปและเป็นแฮททริตของเขาด้วย

นาที 73 "เจ้าบุญทุ่ม" มาเหลือผู้เล่น 10 คนเหมือนกันหลังจาก เฌเรมี่ มาติเยอ ไปเสียบ ราฮีม สเตอร์ลิง โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป

ก่อนหมดเวลา3นาที เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษ แต่ทว่า เนยมาร์ ยิงไปติดเซฟของ วิลลี่ กาบาเยโร่ จากนั้นแค่อีกสองนาทีถัดมา น.89 เนยมาร์ มาแก้ตัวสำเร็จ เมสซี่ ผ่านบอลมาให้ก่อนสตาร์ทีมชาติบราซิลยิงไปไม่เหลือจบเกม บาร์เซโลน่า ไล่ต้อนเอาชนะ แมนฯซิตี้ ขาดลอย 4-0


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บาร์เซโลน่า : มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น , ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ , เคราร์ด ปิเก้ ( เฌเรมี่ มาติเยอ น.39) , ซามูแอล อูมติตี้ , จอร์ดี้ อัลบา (ลูคัส ดีญ น.10) ,อิวาน ราคิติช , เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ , อันเดรส อีเนียสต้า (อังเดร โกเมซ น.80) , ลิโอเนล เมสซี่ , หลุยส์ ซัวเรซ , เนยมาร์


แมนฯ ซิตี้ : เคลาดิโอ บราโว , ปาโบล ซาบาเลต้า ( กาแอล กลิชี่ น.57) , จอห์น สโตนส์ , นิโกลัส โอตาเมนดี้ , อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ , แฟร์นานดินโญ่ , อิลคาย กุนโดกัน (เซร์คิโอ อเกวโร่ น.80) , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง , ดาบิด บีย่า , โนลิโต้ (วิลลี่ กาบาเยโร่ น.57) , เควิน เดอ บรอยน์


ผู้ตัดสิน : มิโลรัด มาซิช (เซอร์เบีย)