"เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ เรียกฟอร์มเก่ง บุกถล่ม "แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช เละคาสนามตัวเอง 4-0 เซร์คิโอ อเกวโร่ ยิงสอง จ่ายหนึ่ง พาทีมคว้าสามแต้ม พร้อมแซงขึ้นจ่าฝูง ด้วยประตูได้เสียดีกว่า อาร์เซน่อล ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2559
เวสต์บรอมวิช 0-4 แมนฯ ซิตี้



สนาม : เดอะ ฮอว์ธอร์นส์


แมนฯ ซิตี้ บุกเยือน เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมที่พวกเขาผูกปีชนะมา 9 นัดติดต่อกัน โดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หวังฟื้นฟอร์มให้ได้หลังไม่ชนะใครมา 6 เกมซ้อน ส่งชุดใหญ่สุดลงชน เคลาดิโอ บราโว่, จอห์น สโตนส์, อิลคาย กุนโดกัน, ราฮีม สเตอร์ลิง, ดาบิด ซิลบา และ เซร์คิโอ อเกวโร่ กลับคืนทีมทั้งหมด


ส่วนเจ้าบ้านของ โทนี่ พูลิส ได้ จอนนี่ อีแวนส์ พ้นโทษแบนกลับมา แต่ก็เสีย เคลาดิโอ ยาค็อบ ติดแบนสวนไปแทน นอกนั้นมาเดิมๆ ข้างหน้าฝากความหวังที่ ซาโลมอน รอนดอน



เปิดเกมมา 2 นาทีเศษ เป็น เวสต์บรอมวิช ที่ได้ทักทายก่อน เคร็ก ดอว์สัน ดันขึ้นทางขวาไปถึงสุดเส้นหลังก่อนเปิดเรียดมาเสาแรก ซาโลมอน รอนดอน เก็บลูกได้ก่อนไหลกลับมาให้ นาเซอร์ ชาดลี่ วิ่งเข้าซัดหลุดกรอบนิดเดียว



แต่หลังจากนั้น แมนฯ ซิตี้ ก็ค่อยๆ ทำเกมเหนือกว่า และเกือบมีเฮในนาทีที่ 17 จังหวะ ดาบิด ซิลบา หยอดเข้าใน แกเร็ธ แม็คออลี่ย์ โหม่งสกัดเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดสวนตูมเดียวติดซูเปอร์เซฟ เบน ฟอสเตอร์ ปัดทิ้งออกหลัง และจากลูกเตะมุม โนลีโต้ เปิดไปเสาสอง จอห์น สโตนส์ ดึงลงได้ก่อนซัดเข้าข้างตาข่าย



อย่างไรก็ดี แมนฯ ซิตี้ ก็นำ 1-0 สำเร็จในนาทีที่ 19 อิลคาย กุนโดกัน ควบบอลขึ้นหน้าก่อนแทงตรงๆ ให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ วิ่งตามลูกไปซัดเปรี้ยงสวนตัว เบน ฟอสเตอร์ เสียบเสาไกลสุดเฉียบคม 1-0 ของทีมเยือน



จากนั้นยังคงเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่คุมสถานการณ์ได้หมด และก็มาได้ 2-0 ต่อในนาที 28 จังหวะ โนลีโต้ ทะลุไปยิงผ่าน ฟอสเตอร์ แล้ว แต่ยังมี โยนาส โอลส์สัน ตามไปเคลียร์ทิ้งทันก่อนข้ามเส้น อย่างไรก็ดี บอลยังคงมาเข้าทาง กุน อเกวโร่ เก็บบอลได้ที่หน้าเขตโทษ แต่งเข้าขวาแล้วปั่นมุดเข้าตาข่ายอย่างสุดงาม เป็นเม็ดสองของตัวเองในเกมนี้



ท้ายครึ่งแรกโอกาสจบมีสำหรับทั้งสองฝั่ง แต่ยังคงไม่มีสกอร์เพิ่ม จบไปก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ นำสบาย 2-0



"เรือใบสีฟ้า" ไม่เพลาเครื่องนาที 51 เกือบได้ลูกสามบอลกดดันหน้าเขตโทษเจ้าถิ่น อิลคาย กุนโดกัน สับไกยัดไปแฉลบส้นเท้า โนลีโต้ พวกเดียวกันเองเปลี่ยนทางเฉี่ยวเสาขวาแค่หลักฟุต



โอกาสของ "แบ็กกี้ส์"บ้างนาที 56 คริส บรันท์ วางยาวลึกไปถึงปากประตู "ซิตี้" ซาโลมอน รอนดอน ถึงบอลก่อน เคลาดิโอ บราโว่ ซึ่งจะออกมาตัด แต่หอกเวเนซุเอลาโหม่งใส่ปากประตูโล่งๆข้ามคาน



เจ้าถิ่นบู๊มาต่อเนื่องนาที 66 นาเซอร์ ชาดลี่ ได้สับไกจาก 22 หลา วิถีพุ่งเป็นปืนใหญ่วาบเฉี่ยวคานชนิดที่ บราโว่ ต้องโดดเช็คระยะ



กุนซือ โทนี่ พูลิส ของเวสต์บรอมวิชเห็นบ่อน้ำมันทางริมเส้นสั่งลูกทีมแทงตัดหลังทางปีกซ้ายนาที 71 เจมส์ แม็คเคลน ห้อตะบึงเต็มฝีเกือกแล้วปาดเรียดเข้าปากประตูแต่ รอนดอน แประยะ 6 หลาโดนแป้กๆไหลผ่านเสาไกล



นาทีที่79 แมนฯซิตี้ มาบวกสกอร์เพิ่ม เมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ จ่ายบอลให้ อิลคาย กุนโดกัน ซัดไม่เหลือ ทีมเรือใบนำโด่ง 3-0



ช่วงทดเจ็บ แมนฯซิตี้ มาได้สกอร์เพิ่มอีก เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ที่ลงมาสำรอง จ่ายให้ อิลคาย กุนโดกัน ยิงให้ทีมเยือนทิ้งโด่ง 4-0

เวลาที่เหลือแม้ แบ็กกี้ส์ ไล่บดแต่เจาะไม่สำเร็จจบเกมพ่ายต่อ แมนฯ ซิตี้ 0-4 ทำให้ ทีมเรือใบ แซงกลับไปนำจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียดีกว่า อาร์เซน่อล



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


เวสต์บรอมวิช : เบน ฟอสเตอร์ - เคร็ก ดอว์สัน, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์, โยนัส โอลส์สัน, อัลลัน นียอม - จอนนี่ อีแวนส์ - นาเซอร์ ชาดลี่, คริส บรันท์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, เจมส์ แม็คเคลน - ซาโลมอน รอนดอน

สำรอง: ฮัล ร็อบสัน-คานู, เจมส์ มอร์ริสัน, เคร็ก การ์ดเนอร์, แม็ตต์ ฟิลลิปส์, โบอาซ มายฮิลล์, เบรนแดน กัลโลเวย์, โจนาธาน เลโก้



แมนฯ ซิตี้: เคลาดิโอ บราโว่ - จอห์น สโตนส์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ราฮีม สเตอร์ลิง, อิลคาย กุนโดกัน, แฟร์นันดินโญ่, แฟร์นันโด, โนลีโต้ - ดาบิด ซิลบา - เซร์คิโอ อเกวโร่



สำรอง: วิลลี่ กาบาเยโร่, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เฆซุส นาบาส, เควิน เดอ บรอยน์, กาแอล กลิชี่, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, อเล็กซ์ การ์เซีย



ผู้ตัดสิน: ลี เมสัน