"เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ แม้จะเป็นฝ่ายตามตีเสมอ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 1-1 แต่ยังดีพอผ่านเข้ารอบ16ทีมสุดท้ายตามบาร์เซโลน่าหลังมีเฮดทูเฮดที่ดีกว่า กลัดบัค โดยไม่ต้องดูผลการแข่งขันนัดสุดท้ายส่งผลให้ "สิงห์หนุ่ม" ได้โค้วต้าไปเล่นยูโรปาลีกแทน ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันพุธที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม ซี
วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2559

มึนเช่นกลัดบัค (เยอรมัน) 1 - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) 1

สนาม : สตาดิโอน อิม โบรุสเซีย พาร์ค

โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัคเจองานหนักในการเปิดบ้านรอรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าถิ่นต้องปราศจาก ยูเลี่ยน คอร์บ และ คริสโตฟ คราเมอร์ ที่ติดแบน แต่ยังมี ฟาเบียน จอห์นสัน กับ รัฟฟาเอล เป็นทีเด็ดในแนวรุก ส่วนทีมเยือนได้ เคลาดิโอ บราโว่ พ้นโทษพักแข้งกลับมาเฝ้าเสา พร้อมฝากความหวังไว้ที่ ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิง, เควิน เดอ บรอยน์ และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน''

โอกาสแรกเป็นของ ''สิงห์หนุ่ม'' ฟาเบียน จอห์นสัน หลุดเข้าไปกดด้วยขวา ทว่าบราโว่ยังป้องกันเอาไว้ได้

เจ้าบ้านมาได้ประตูก่อนในนาทีที่ 23 จากจังหวะที่ ลาร์ส สตินเดิ้ล แย่งบอลได้จาก จอห์น สโตนส์ หลุดขึ้นทางซ้าย ก่อนปาดเข้าเขตโทษให้ รัฟฟาเอล ตะบันเสียบตาข่ายไม่เหลือขึ้นนำ 1-0

โดนแบบนี้ ''เรือใบสีฟ้า'' อยู่เฉยไม่ได้ จากลูกเตะมุม อิลคาย กุนโดกัน เอาบอลลงแล้วกระหน่ำหน้ากรอบเขตโทษ แต่ ยานน์ ซอมเมอร์ ยังพุ่งปัดออกหลังได้เยี่ยม

ลูกทีมของ อันเดร ชูแบร์ต สวนเป็นระยะ นาทีที่ 38 ออสการ์ เวนด์ท ตัดบอลได้เลี้ยงลุยเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษฝั่งขวา คราวนี้ บราโว่ ยังออกมาปิดมุมได้ดี

3 นาทีต่อมาเจ้าถิ่นต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนแรก หลัง อิบราฮิมา ตราโอเร่ มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ส่ง โยนาส ฮอฟมันน์ ลงเล่นแทน

จากนั้นผู้มาเยือนเกือบได้เดอ บรอยน์กระดกบอลให้สเตอร์ลิงหลุดเข้าเขตโทษทางขวา ก่อนจ่ายเข้ากลาง อเกวโร่ยิงไปติดซอมเมอร์อย่างน่าเสียดาย

ช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ตามตีเสมอจนได้ เมื่อสเตอร์ลิงจ่ายออกขวาให้เดอ บรอยน์ ปาดกลับเข้ากลาง และเป็นซิลบาชาร์จจ่อๆ ไม่พลาด จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมจึงเจ๊ากันไปก่อน 1-1

เริ่มครึ่งหลัง 5 นาที ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย เดอ บรอยน์ จ่ายในกรอบเขตโทษให้สเตอร์ลิงซัดเข้าไป กระนั้นผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าแล้ว

นาทีที่ 51 กลัดบัคต้องมาเหลือ 10 คน หลังสตินเดิ้ลไปทำฟาวล์ใส่ นิโกลัส โอตาเมนดี้ เชิ้ตดำชักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

อย่างไรก็ตาม ผ่านมาถึงนาทีที่ 63 ทีมเยือนต้องมาเหลือ 10 คนด้วย หลัง แฟร์นันดินโญ่ ไปทำฟาวล์ รัฟฟาเอล กรรมการชูใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงเช่นกัน

ถัดมาเจ้าบ้านได้ลุ้น กุนโดกันส่องไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลตรงตัวซอมเมอร์รับเข้าซองไม่มีปัญหา

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังพยายามบุกหวังเอาประตูชัยให้ได้ แต่แนวรับเล่นกันไม่พลาดแล้ว จบเกมจึงเสมอกัน 1-1 ทำให้แมนฯ ซิตี้ผ่านเข้ารอบต่อไปเรียบร้อย ส่วนกลัดบัคยังได้โควตาไปเล่นถ้วยยูโรปา ลีก

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

กลัดบัค : ยานน์ ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, โทนี่ ยันท์ชเค่ - อิบราฮิมา ตราโอเร่, โทเบียส ชโตรเบิ้ล, มามูด ดาอูด, ออสการ์ เวนด์ท - ลาร์ส สตินเดิ้ล - ฟาเบียน จอห์นสัน, รัฟฟาเอล

สำรอง : ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, นิโก้ เอลเวดี้, โทเบียส ซิปเปิล, ลาสโล่ เบเนส, โยนาส ฮอฟมันน์, อันเดร ฮาห์น, นีลส์ รุตเทน


แมนฯ ซิตี้ : เคลาดิโอ บราโว่ - จอห์น สโตนส์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - เฆซุส นาบาส, อิลคาย กุนโดกัน, แฟร์นานโด, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิง - เควิน เดอ บรอยน์ - เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน''

สำรอง : บาการี่ ซาญ่า, แฟร์นานโด, โนลีโต้, วิลลี่ กาบาเยโร่, ลีรอย ซาเน่, กาแอล กลีชี่, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่


ผู้ตัดสิน : กูเน็ต ซาคีร์ (ตุรกี)